ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสำหรับบทสุดท้ายของละครซีรีส์เรื่องดังแห่งปีอย่าง “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” ซึ่งถึงแม้ผมอาจเคยพูดถึงละครเรื่อง “คุณชายรณพีร์” ในทางที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เนื่องด้วยหลายๆปัจจัยที่ทำให้ผมอดนึกถึงหนังดังจากยุค 80’s อย่าง Top Gun ไม่ได้…ซึ่งหนังจริงๆมันไม่ได้แย่หรอก แต่บ่อยครั้งที่ผมเห็นแล้วรู้สึกว่า “งั้นเราดูละครอยู่ทำไม ไปดูหนังจริงเลยไหม?”
แต่เหมือนทางเบื้องบนจะเป็นใจครับ พวกเขาได้ส่งตัวละครตัวหนึ่งที่ทำให้ละครเรื่องนี้สนุก น่าตื่นเต้นและเร้าใจมากๆ เธอคือ มล.วิไลรัมภา เทวพรหม
พล็อตหลักละคร
สรุปง่ายๆ คุณชายรณพีร์ไปรักกับดาราสาวผู้ยากจน และต้องฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆทั้งความแตกต่างทางชนชั้นและเพื่อนรักของพระเอกที่ไปแอบชอบดาราสาวจนถึงกับถอนหมั้นกับคู่รักของตน รวมถึงคู่หมั้นที่ทางตระกูลเทวพรหมและจุฑาเทพหมั้นหมายไว้แล้ว…นั่นคือ “วิไลรัมภา” หญิงสาวผู้มีกิริยาท่าทางเรียบร้อย แต่แฝงไปด้วยความดุร้ายและน่ากลัว
วิเคราะห์ตัวละคร
ใครที่ตามดูละครเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นจะรู้ว่าวิไลรัมภานั้นปากหมาอย่างร้ายกาจ เธอกับมารตีจะทะเลาะกันบ่อยๆจนพี่คนโตอย่างเกษราต้องเข้ามาห้าม แต่ดูเหมือนว่าใน”คุณชายรณพีร์”นี้ทั้งคู่สมานฉันท์และยอมร่วมมือกันเพื่อกำจัดเพียงขวัญและเพื่อให้ตระกูลเทวพรหมกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง หลังจากที่คว้าน้ำเหลวมาโดยตลอดในด้านความรักกับตระกูลจุฑาเทพ นอกจากนี้เธอทำให้ผมนึกถึง “รัชนก” ในแรงเงาอีกด้วย…เพราะเธอโดดเด่นมากในด้านการตีสองหน้า พอเวลาอยู่ต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่และคุณชายรณพีร์จะเรียบร้อย แสนดีดุจผ้าพับไว้ แต่พอเวลาโมโหหรือโกรธแค้นเมื่อไหร่เธอจะกลายสภาพเป็นสาวโรคจิตผู้เก็บกดทันที…ซึ่งข้อหลังนี่แหละที่ทำให้พบค้นพบบางอย่างในตัวเธอที่ทำให้ละครเรื่องนี้สนุกและน่าติดตามมากๆ
เธอทำให้ผมนึกถึงตัวละครสองตัวที่ Jack Nicholson เคยรับบทไว้…นั่นคือ Joker (จาก Batman (1989)) และ Jack Torrance (จาก The Shining (1980)) เพราะปูมหลังของบุคคลทั้งสามนั้นคลายกันมากอย่างไม่น่าเชื่อ
– วิไลรัมภา
ผมเชื่อว่าตอนแรกเธอไม่ได้เลวหรือเป็นคนไม่ดีหรอก แต่บังเอิญว่าทางบ้านน่าจะปลูกฝังความเชื่อเรื่องที่เธอต้องแต่งงานกับคุณชายรณพีร์มากเกินไป เธอจึงเกิดความรู้สึกว่า”ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นของฉันเท่านั้น” และทุกอย่างก็มาถึงจุดเดือดเมื่อเธอพบว่าคุณชายรณพีร์นั้นไปชอบเพียงขวัญ นางเอกหนังผู้ยากจน…เธอจึงเปลี่ยนความผิดหวังเป็นความแค้น ดังจะเห็นได้ในฉากเขียนกระจกอันลื่อลั่น (และน่าจะทำให้เอสเธอร์คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมไปครอง…หลายคนว่าอย่างนั้น) ซึ่งแสดงให้เห็นความแค้นฝังใจในตัวเพียงขวัญ
– Joker
ในหนังฉบับนี้ (ซึ่งเป็นหนัง Batman ที่ผมรักมากที่สุด) Joker (ซึ่งเดิมคือ Jack Napier) เป็นลูกน้องของหัวหน้าแก๊งอันธพาลที่ใหญ่คับเมือง วันหนึ่งเขาถูกส่งให้ไปถล่มโรงงานผลิตสารเคมี แต่ขณะที่กำลังต่อสู้กับ Batman นั้นตัว Joker เองเกิดพลาดท่าตกลงไปในถังสารเคมี ทำให้ใบหน้าของเขาเละไปจากเดิมและเกิดความแค้นฝังใจในตัว Batman ตั้งแต่นานมา
– Jack Torrence
Jack และครอบครัวเดินทางไปพักผ่อนช่วงฤดูหนาวที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โดย Jack จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเขียนนิยาย…หารู้ไม่ว่าที่โรงแรมเหล่านั้นมีภูตผีที่คอย”ปั่นหัว”สมาชิกในครอบครัวทุกคนรวมถึง Jack เองด้วย จนท้ายที่สุดแล้ว Jack ก็จงเกลียดจงชังลูกเมียตัวเองถึงขนาดตามไล่ฆ่าในช่วงท้ายของหนังเลยล่ะ
จากสามตัวอย่างนี้เราจะเห็นได้ว่าตัวละครทั้งหมดนี้ล้วนถูกแรงกดดันจากสังคมและสิ่งเร้ารอบตัว ความเลวร้ายในจิตใจจึงถูกแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด ใครจะไปรู้ล่ะ? บางทีถ้าสะใภ้ตระกูลจุฑาเทพถูกกระตุ้นด้วยแรงขับเคลื่อนเหล่านี้เป็นเวลานานๆ ธาตุแท้ของพวกเธอก็อาจไม่ต่างกับนางอิจฉาก็ได้
—————————————–
จะว่าไปโครงสร้างตัวละครแบบนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญในภาพยนตร์หลายๆแนว (genre) โดยเฉพาะหนังแนว Vigilante (ต่อไปจะขอเรียกว่าหนังแนว”ศาลเตี้ย”) ซึ่งผมชอบดูมาก พล็อตหลักของหนังแนวนี้คือตัวละครเอกในช่วงแรกก็จะยังเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ใช้ชีวิตไปตามปกติจนกระทั่งมีเหตุการณ์มากระทบจิตใจ (ซึ่งอาจเป็นได้ตั้งแต่การถูกผู้ร้ายฆ่าลูกเมียของตน ไปจนถึงการโดนรุมข่มขืน) หลังจากนั้นตัวละครเอกก็จะมองโลกในแง่ร้ายและระบายอารมณ์โกรธออกมาผ่านการใช้อาวุธสังหารผู้ที่เคยทำร้ายจิตใจของตน
จะว่าไป…หลังจากที่วิไลรัมภาผิดหวังจากการที่ไม่ได้รักกับคุณชายรณพีร์ ชีวิตเธอจะเป็นยังไงต่อนะ?
—————————————-
แบบ A (Lady Snowblood/Thriller: A Cruel Picture/Ms .45/Kill Bill)
วิไลรัมภาผิดหวังและเสียใจจนไม่เป็นทำอะไรไปหลายเดือน หลังจากนั้นเธอตัดสินใจหนีออกจากบ้านเพราะไม่อยากให้ทางตระกูลอับอายไปมากกว่านี้ ขณะที่หนีออกมานั้นเธอถูกคนร้าย 5 คนรุมข่มขืนและชิงทรัพย์ไป เธอรู้ตัวอีกทีที่โรงพยาบาลว่าขณะนี้เธอเริ่มติดเชื้อกามโรคจากคนร้ายห้าคนนั้นแล้ว เธอจึงต้องรีบแก้แค้นให้ได้ก่อนที่โรคร้ายจะคร่าชีวิตเธอ…ทว่าหลังจากล้างแค้นสำเร็จแล้วเธอมีอาการป่วยทางจิตบางประการ คือเธอจะหวาดระแวงผู้ชายทุกคนที่เข้ามาย่างกรายใกล้เธอจนทำให้บ่อยครั้งที่เธอยิงผู้ชายที่คิดรักเธอจริงๆ แต่เธอไม่เสียใจ…เพราะปมอดีตของเธอที่ทำให้เธอคิดว่าผู้ชายทุกคนนั้นอันตรายเหมือนกัน
(ตอนจบยังไม่ได้คิดไว้ แต่มันคงไม่ดีเท่าไหร่แน่ๆ)
แบบ B (Natural Born Killers/True Romance/เรื่องตลก 69/กล่อง)
วิไลรัมภาตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไปทำงานเป็นผู้จัดการในร้านตัดเสื้อแห่งหนึ่ง…ทว่าหนึ่งในคุณชายทั้งห้าของจุฑาเทพเกิดมีปากเสียงอย่างหนักกับภรรยาของเขาและแยกทางกันในเวลาต่อมา (ครับ ผมอยากจะสอนคนอ่านว่าชีวิตจริงมันไม่ได้แฮปปี้เอ็นดิ้งเสมอไปหรอก/ผู้เขียน) ซึ่งก็ให้บังเอิญว่าเขาและเธอต่างก็มีใจให้กัน เขาและเธอต่างคบหาด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันจนกระทั่งวันหนึ่งพระเอกของเราถูกกลุ่มคนร้ายรุมซ้อมและพยายามแย่งกระเป๋าเอกสารของเขา เขาต่อสู้และชิงเอากระเป๋าคืนมาได้ ขณะที่ทั้งคู่เดินทางมาที่วังนั้นเองเขาพบว่าย่าเอียดและคนใช้ในบ้านทั้งหมดถูกฆ่าตาย นั่นหมายความว่านอกจากคนร้ายจะรู้ว่าเขาเป็นใคร (ก็แหง เป็นคุณชายดังระดับประเทศซะขนาดนั้น/ผู้เขียน) แล้ว คงมีการเข้าใจผิดเกี่ยวกับกระเป๋าเอกสารแน่ๆว่าอาจเป็นของที่ทางการกำลังตามล่า ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดกระเป๋าดูของแล้วมีสีหน้าตกตะลึงสุดขีด (คนดูจะไม่รู้นะครับว่ามีอะไรอยู่ในนั้น)
ระหว่างทางที่ทั้งคู่ทั้งคู่ขับรถหนีออกมา พวกเขาได้ยินข่าวลือมากมายเกี่ยวกับกระเป๋าลึกลับที่ทางการกำลังตามหาอยู่ บ้างก็ว่ามีเงิน บ้างว่ามียาเสพติด บ้างว่ามีมนตร์ดำ บ้างว่ามีระเบิดนิวเคลียร์ขนาดจิ๋ว แต่เขาและเธอก็ตัดสินใจเก็บกระเป๋าไว้กับตัวเพราะทั้งคู่ไม่ได้เอาอะไรติดตัวออกมาเลยขณะที่หนีออกมา และคิดว่าหากเอากระเป๋าไปทิ้ง ยังไงเสียตนก็อาจถูกฆ่าตายอยู่ดีหากโจรมันไม่เชื่อว่าตัวเองทิ้งกระเป๋าไปแล้ว…ทั้งคู่หนีไปเรื่อยๆ พบกับตัวละครต่างๆมากมาย ตอนจบจะมีการหักหลังกัน พระเอกและวิไลรัมภาถูกฆ่าตายทั้งคู่ ผู้ร้ายแย่งกระเป๋าไปได้แต่ถูกผู้ร้ายอีกกลุ่มฆ่าทิ้งเพื่อชิงกระเป๋า และผู้ร้ายอีกลุ่มแย่งกระเป๋าไปได้แต่ถูกผู้ร้ายคนละกลุ่มฆ่าทิ้งเพื่อชิงกระเป๋า และผู้ร้ายคนละกลุ่มแย่งกระเป๋าไปได้แต่ถูกผู้ร้ายอีกกลุ่มฆ่าทิ้งเพื่อชิงกระเป๋า วนอย่างนี้ไปเรื่อยๆไม่จบสิ้น
——————————————
ท้ายที่สุด ผมไม่สนนะครับว่าใครจะมองผมว่ายังไง…แต่ท่ามกลางพล็อตละครที่รันทด (ปนน้ำเน่า)เช่นนี้ นางอิจฉามีบทบาทสำคัญมากๆในการทำให้ละครน่าติดตาม
ผมคงไม่โดนโห่ใช่ไหมครับถ้าผมจะบอกว่าผมเป็นกองเชียร์ของวิไลรัมภา และคิดว่าเธอน่าจะติดอันดับนางร้ายแห่งปีแน่ๆ