โดยปกติผมเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ดูละคร ยกเว้นเสียแต่ว่าพ่อแม่ผมจะดูหรือเรื่องนั้นมันฮิตมากจริงๆจนเราต้องหาทางอยากดูให้จนได้…เช่นกรณีละคร”วนิดา”เมื่อหลายเดือนก่อน จะว่าไปสิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตในละครเรื่องนี้คือตัวละครอย่าง”พิสมัย”ที่ตอนแรกก็จะได้แต่งงานกับพระเอกแล้ว แต่จู่ๆก็มีนางเอกอย่าง”วนิดา”มาแทนที่…ส่งผลให้นิสัยของเธอเปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังมือ ตอนนั้นผมตั้งคำถามในใจนะว่า “ตกลงใครกันแน่ที่เป็นตัวร้ายระหว่างพิสมัยกับวนิดา?” อันที่จริงผมคงจะลืมคำถามนี้ไปโดยสิ้นเชิงหากไม่ได้ดูละครสุดฮิตในขณะนี้อย่าง….
สามหนุ่มเนื้อทอง!
แม่ผมดูละครเรื่องนี้นะ แต่ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แต่บังเอิญไปเจอสเตตัสของเพื่อนคนนึงในเฟสบุ๊คเขียนทำนองว่า “สงสารแหนมอ่ะ โดนคนรักเปลี่ยนใจไปชอบนางเอกแทน” นั่นจึงทำให้ผมต้องมาพิสูจน์ถึงกรณีนี้ซะทีว่าถ้าผมเป็นพระเอก…ผมจะทิ้งลงไหม?
————————————-
เมื่อมองภายนอก เนตรนภัสหรือ”แหนม”ก็คือหญิงสาวที่สวย ดูดี มีฐานะ ใครเห็นเป็นต้องชอบ แต่ลักษณะนิสัยของ”แหนม”คือ ถ้ารักใครแล้วจะรักสุดหัวใจ ไม่สนว่าคนๆนั้นจะชอบด้วยหรือไม่…พูดง่ายๆคือเอาแต่ใจและพยายามทำทุกทางให้คนๆนั้นรักและแต่งงานกับตน
ผมลองไปเยี่ยมชมตามเว็ปบอร์ดในพันธ์ทิพย์แล้วก็พบกับสิ่งที่ไม่ได้เหนือความคาดหมายเลย ใครๆก็สงสารแหนมทั้งนั้น! เพราะเธอคือตัวแทนของผู้หญิงที่ถูกผู้ชายทิ้งเพียงเพราะไปเจอคนใหม่ที่ดีกว่าทั้งๆที่จะแต่งงานกันแล้ว ซึ่งฟังดูน่าละอายเหมือนกันนะ เพราะถ้าเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ…ใครจะไปรู้ล่ะว่าวัชจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงอีกกี่คนกันแน่? โดยส่วนตัวผมถือว่ากรณีนี้น่าสนใจนะ เพราะมีไม่บ่อยครั้งที่ตัวอิจฉาจะได้รับความสงสารจากคนดูมากกว่านางเอกเสียเอง ดังนั้นผมจึงลองพยายามหาละครตอนแรกๆมานั่งดู แล้วผมพบว่า…
ความคิดเห็นของเรา
โดยส่วนตัวแล้วนะ ถามว่าแหนมสวยมั้ย…ก็สวยดีนะ (ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผู้แสดงด้วย 😀 ) แต่หลังจากที่ได้ย้อนกลับไปดูตอนแรกๆของละคร เรารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่ากลัวเหลือเกิน จะไปไหน…จะไปทำอะไรกับใครก็จะถูกเธอซักประวัติอย่างละเอียดประดุจเป็นเจ้าหน้าที่ซักผู้ต้องสงสัยยังไงยังงั้น (ซึ่งตรงกันข้ามกับช่วง flashback ของละครที่ฉายให้ดูว่าก่อนหน้านี้เธอเป็นผู้หญิงที่นิสัยดีและน่ารักมาก) และก็เหมือนจะพยายามดึงวัช(พระเอกในเรื่อง)มาแต่งงานให้ได้ทั้งๆที่คบกันมาได้แค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ในที่นี้ผมไม่ได้หมายความว่าคุณต้องคบกันเป็นสิบๆปีก่อนแต่งงานนะ แต่อยากจะบอกว่าถ้าเป็นไปได้ควรจะปล่อยให้มันเป็นเรื่องของความรู้สึกมากกว่า อยากแต่งงานเมื่อไหร่ความรู้สึกนั้นก็จะมาเอง…ไม่ใช่ว่าจะต้องแต่ง ณ เดี๋ยวนั้น ณ ตอนนั้น
เอาง่ายๆ ก็เหมือนกับคุณปลูกต้นไม้นั่นแหละ คุณต้องรดน้ำ ต้องพรวนดิน กำจัดวัชพืช…ทำทุกอย่างแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ตะบี้ตะบันว่ามันต้องโตเดี๋ยวนี้ ต้องออกผลเดี๋ยวนั้น ไม่งั้นคุณจะปลูกต้นไม้ไปทำไมล่ะ? คุณไปซื้อผลไม้ในตลาดหรือซื้อเป็นต้นใหญ่ๆมาไม่ง่ายกว่าเหรอ? แต่สำหรับความรัก…ไม่รู้สิ ผมยังไม่เคยมีประสบการณ์ แต่เท่าที่รู้มันไม่มี”ผลไม้”หรือ”ต้นไม้ใหญ่ๆ”เหมือนในกรณีด้านบนแน่ๆ …ก็ความไว้ใจมันไม่ได้มีปุ๋ยเร่งโตหรือปุ่ม Fast Forward นี่ครับ
ไม่ทราบว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ในที่สุดตอนท้ายเรื่อง วัชทิ้งแหนมได้เป็นผลสำเร็จเพราะซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง…ซึ่งโดยส่วนตัวก็รู้สึกว่าทำอย่างนี้มันไม่ผิดนะ เพราะบ่อยครั้งที่ผมก็ซื่อสัตย์ความรู้สึกในหลายๆเรื่องที่ไม่ใช่ความรัก แต่กับตัวแหนมเองล่ะ? ผมก็อดสงสารไม่ได้นะ…จู่ๆโดนฝ่ายชายมาบอกหลายรอบอยู่นั่นแหละว่าไม่ได้ชอบทั้งๆที่เธอและวัชเองกำลังจะแต่งงานอยู่แล้ว แต่จะว่าไปถ้าเธอยอมผ่อนปรนกับอะไรหลายๆอย่างในชีวิต รู้จักการให้อภัยและยึดมั่นถือมั่นน้อยกว่านี้ เธอจะเป็นผู้หญิงที่น่ารักมากเลยล่ะ
สำหรับตัว”วัช”ผมไม่ขอพูดอะไรมากแล้วกัน(เพราะไม่ได้ดูทุกตอน) แต่เข้าใจว่าน่าจะทิ้งแหนมไปเพราะเจอผู้หญิงที่เหมาะสมกว่าในนาทีสุดท้าย…ถามว่าผิดไหม มันอาจผิดนะ แต่เราคิดว่ามันยังดีกว่าการโกหกความรู้สึกตัวเองแล้วไปบอกเลิกกันตอนมีลูกมีครอบครัวแล้ว เพราะคนที่เสียใจอาจไม่ใช่แค่ตัวแหนมเอง แต่อาจรวมถึงตัวลูกๆที่อาจมีปมด้อยจากเรื่องนี้ในอนาคตก็เป็นได้
————————————
บทสรุป
แม้ว่ากรณีศึกษาครั้งนี้จะมีสภาพคล้ายๆนิทานขนาดสั้นในนิทานเวตาล ผมกลับตอบไม่ได้ว่าถ้าผมเป็นวัช ผมจะกล้าทิ้งแหนมลงไหม? เพราะใครจะไปรู้ล่ะว่าสิ่งที่เราเห็นตรงหน้านั้นอาจมีอะไรที่เลวร้ายซ่อนอยู่อย่างเงียบๆก็เป็นได้
จะว่าไป…ผมเขียนมาถึงตรงนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตอนนี้มันดูซีเรียสเกินกว่าที่ควรจะเป็น ไม่มีมุขตลก(เห่ยๆ)แบบตอนก่อนๆของซ.ต.พ. แต่การพิสูจน์ครั้งนี้ทำให้รู้ว่าบางครั้งชีวิตคนเราไม่ต้องไปคาดหวังกับสิ่งต่างๆมากเกินไป เช่นการที่เราคาดหวังในเรื่องความรักมากเกินไปก็อาจทำให้เป็นทุกข์ได้ดังเช่นในละครเรื่องนี้
…หรืออย่างน้อยที่สุดก็ดูได้จากการพิสูจน์ครั้งนี้ของผมที่ไม่มีผลลัพธ์ดังที่ได้คาดหวังไว้ แต่ได้อะไรที่สวยงามน่าจดจำไม่แพ้กัน
ปล. ละครเรื่องนี้พี่พิตต้าเล่นดีมากครับ
————————————–
หมายเหตุ เนื่องจากผมไม่ได้ดูละครเรื่องนี้ทุกตอน หากมีบางสิ่งที่คลาดเคลื่อนจากในละคร ขออภัยมา ณ ที่นี้