ผ่านไปไวราวกับโกหก หนังมนุษย์ต่างดาวสุดประทับใจ(และหนึ่งในหนังรักตลอดกาลของผม)ก็เดินทางมาครบรอบสามสิบปีแล้ว ถึงแม้ผมจะรู้จักมันครั้งแรกเมื่อนานมากแล้ว…แต่แปลกที่ผมจำมันได้ค่อนข้างชัดเจน
ผมได้ยินชื่อของอีทีแบบรู้ตัวชัดเจนก็เมื่อทาง Universal Pictures จะเอาอีทีมาฉายใหม่พร้อมเพิ่มฉากพิเศษ(เป็น 20th Anniversary Edition) ผมเลยขอร้องให้พ่อพาไปดูในโรง…แต่พ่อผมมองการณ์ไกลมาก ตัดสินใจพาผมไปที่ร้านเช่าวีดีโอและนั่งดูอีทีในรูปแบบวีดีโอเทปด้วยกันกับผม ที่ว่ามองการณ์ไกลเพราะอีทีแบบที่ผมดูนั้นถึงภาพจะไม่ค่อยชัดและผมจำอะไรจากตรงนั้นได้ไม่ค่อยมากแล้ว แต่มันคือฉบับ”ดั้งเดิม”ที่ฉายในโรงยุคนั้นเลยซึ่งแทบไม่มีขายเป็นดีวีดีอีกเลยหลังจากนั้น ผมเลยได้ความภูมิใจจากตรงนี้ครับ
แม้วันเวลาผ่านไป แต่ผมก็ยังจำเรื่องราวของเด็กน้อยผู้ขาดความอบอุ่นในครอบครัวที่เป็นเพื่อนกับมนุษย์ต่างดาว จำฉากขี่จักรยานเหาะได้(และมันคือวอลล์เปเปอร์คอมผมตอนนี้ด้วย!) และจำวรรคทองอย่าง”E.T. Phone Home”ได้ แต่ยังมีอีกหลายสิ่งที่เกี่ยวกับอีทีที่คนควรพูดถึง…แต่หลายคนอาจไม่รู้หรือรู้แต่แกล้งลืม ผมเลยเอาสิ่งเหล่านั้นมาพูดถึงในนี้ครับ
1)วีดีโอเถื่อน
นี่คือหนังเรื่องแรกๆเลยที่มีการขายวีดีโอเถื่อนอย่างเอิกเกริกทั้งในอเมริกาและต่างประเทศ ส่วนในเมืองไทยคาดว่าคงได้รับความนิยมไม่น้อยเพราะตอนนั้นเป็นยุคหลังการตั้งกำแพงภาษีเพื่อสกัดหนังค่ายใหญ่จากเมืองนอก…แต่ไม่นานนักทางยูนิเวอร์แซลก็นำมันเข้ามาฉายได้ในที่สุด สปอตโฆษณาทีวีดูแหกคอกมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานในปัจจุบัน ไล่มาตั้งแต่บทพูดอย่าง
“เขาไม่ใช่คน แต่อิทธิพลเหนือมนุษย์…เขาน่าเกลียดที่สุด แต่มนุษย์รักเขาทุกคน อยากรู้จักรักบริสุทธิ์เป็นอย่างไร…ไปชม อีทีเพื่อนรัก ศุกร์ที่หนึ่งเมษายนนี้ ทุกโรงในเครือ Major Group”
โอเค ครึ่งแรกฟังแล้วเหมือนประโยคหลอกด่าเชิงการเมือง ครึ่งหลังยิ่งแล้วใหญ่เพราะมันอาจหาญมาด่าอีทีของผมว่าน่าเกลียดที่สุด โดยทั้งหมดทั้งมวลนี้จะเปิดประกอบกับดนตรีอีเล็กโทรนิคทุนต่ำราวกับมาจากหนัง Italian rip-off ซักเรื่อง…โดยมีภาพแฮนด์บิลหนังวางตรงหน้า สรุปแล้วผมว่ามันจะเหมาะกว่าหากนี่คือสปอตโปรโมทเพลง “เพื่อนต่างดาว” ของรอยัลสไปรทส์ (โดยอาจเปลี่ยนรูปประโยคตอนท้ายเล็กน้อย เช่น”เพื่อนต่างดาว…เพลงใหม่ล่าสุดที่รอให้คุณเข้าไปค้นหาจากรอยัลสไปรทส์ ในชุด “สู่อวกาศ”..วางแผงแล้ววันนี้โดยออนป้า“)
2)วีดีโอเกม
มันไม่ใช่หนังเรื่องแรกที่ทำวีดีโอเกมมาขาย แต่มันคือเกมจากหนังเรื่องแรกและอาจเป็นเรื่องเดียวที่ได้ขึ้นทำเนียบ”เกมสุดห่วยตลอดกาล”
ปี 1982 ซึ่งเป็นปีเดียวกันที่อีทีเข้าฉาย ทาง Atari ซึ่งเป็นผู้ผลิตวีดีโอเกมรายใหญ่ที่สุดในอเมริกาที่เพิ่งจะโดนคอเกมด่าไปหยกๆหลังทำเกม Pac-Man ออกมาได้ไม่เหมือนต้นฉบับเลยซักนิดเนื่องจากเป็นงานแนว”สุกเอาเผากิน” คราวนี้ Atari ยังไม่เข็ดครับ…เดินหน้าผลิตเกมจากหนังสุดฮิตเรื่องนี้โดยมีเส้นตายเป็นช่วงคริสต์มาสโดยปีเดียวกัน และใช้เวลาผลิตไม่กี่เดือน ส่งผลให้มันเป็นเกมที่ถูกส่งคืนกลับมายังบริษัทเป็นจำนวนมากและว่ากันว่าตลับจำนวนมากเหล่านั้นถูกฝังไว้ใต้ดินที่ไหนซักแห่งใน New Mexico
ผมเองได้ลองเล่นเกมนี้แล้ว รู้สึกว่ามันน่าเบื่อมากๆ เป้าหลักของเกมคือเราต้องหาชิ้นส่วนโทรศัพท์ของอีทีให้ครบเพื่อโทรเรียกยานแม่ และอีทีต้องวิ่งไปขึ้นยานแม่ให้ทัน โดยทั้งหมดนี้จะต้องกระทำโดยหลบเลี่ยงไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายที่เดินไปเดินมาจับเราได้ ไม่งั้นเราจะถูกอุ้มไปไว้ในอีกทีหนึ่งและเราต้องเดินหาใหม่ทั้งหมด…ตราบเท่าที่ตัวเลขพลังงานของเรายังเหลืออยู่(ใช่ครับ ถ้าตัวเลขวิ่งถึงศูนย์เมื่อไหร่ Game Over ทันที) ฟังดูสนุกก็จริงแต่เวลาเล่นจริงแล้วน่าเบื่อเพราะหน้าจอของแต่ละพื้นที่จะคล้ายกันไปหมด และไอ้ตำรวจสองนายนั้นมันกวนตีนจริงๆ เอะอะจับเราตลอด และถึงแม้คุณจะเล่นในโหมตไม่มีตำรวจก็ตาม…มันจะน่าเบื่อมากๆเพราะมีแต่จอโล่งๆและอีทีเดินไปมา
ไม่สำคัญว่าคุณจะหาชิ้นส่วนเจอทั้งหมดในเกมนี้ไหม เพราะผู้บริหารธุรกิจยุคใหม่ทุกคนรู้แล้วว่าเราจะหาตัวอย่างการจัดการองค์กรที่ล้มเหลวโดยปล่อยให้การตลาดและการโฆษณาสินค้าปกคลุมคุณภาพสินค้าอันอ่อนด้อยได้ที่ไหน?
3)หนัง Rip-Off
ใครที่ตั้งใจอ่านบทความผมดีๆก็คงเห็นคำว่า Rip-Off ในบทความนี้มาแล้วหนึ่งครั้ง มันคือคำที่ใช้อธิบายหนังที่ลอกหนังดังๆในยุคนั้น เช่นในยุคที่ Star Wars (ภาคสี่) ดังสุดขีดเราจะเห็นหนังอวกาศหลายเรื่องแนวธรรมะสู้กับอธรรมออกมาเป็นพะเรอเกวียน หรือช่วงที่หนัง Dawn of The Dead ดังมากๆ ทางอิตาลีก็ไม่เป็นอันทำอะไรนอกจากทำหนังซอมบี้ของตนออกมา หวังตามรอยความสำเร็จของอเมริกาบ้าง
E.T. ก็เป็นหนังอีกเรื่องที่ตกอยู่ในข่ายนี้อย่างช่วยไม่ได้ โดนใครต่อใครในยุคนั้นพยายามลอกเลียนกันใหญ่ แม้ 95% ของหนังเหล่านั้นจะอยู่ในเกณฑ์แย่ก็ตาม แต่คุณไม่อยากจะลองดูตัวอย่างหนังในข่ายนี้หน่อยหรือ?
– Pod People
หนัง E.T. rip-off ที่มีโครงเดิมเป็นหนังสยองขวัญแนวเอลี่ยนฆ่าคน แต่มายำรวมกันกับหนังแนว”มนุษย์ต่างดาวกับเด็กน้อย”ได้อย่างน่าทึ่งพอๆกับน่าสมเพช โดยรวมตัวหนังคนข้างน่าเบื่อและมั่วเพราะอย่างที่บอกไปว่าโปรดิวเซอร์ตัดสินใจเปลี่ยนโครงเรื่องในนาทีสุดท้ายเพื่อกะโหนกระแส”อีทีฟีเวอร์” โชคดีที่มันกลับมาดังอีกครั้งจากรายการ Mystery Science Theater 3000 ที่ชอบเอาหนังเห่ยๆห่วยๆมาฉายไปและ”แซว”ไปในเวลาเดียวกัน
– Nukie
หนัง Rip-off อีกเรื่องที่ว่าด้วยเรื่องของมนุษย์ต่างดาวสองตัวที่หลงมาบนโลกและพลัดพรากจากกัน ตัวหนึ่งถูกจับในแล็บ อีกตัวหลงแถวๆแอฟริกาและได้เป็นเพื่อนกับกลุ่มเด็กๆ ตัวหนังจริงๆได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในหนังยอดแย่ตลอดกาล เพราะมันน่าเบื่อมากและมนุษย์ต่างดาวสองตัวนี้หลักๆก็ไม่ทำอะไรนอกจากตะโกนเรียกชื่อหากัน รวมถึงเดินไปเดินมาทั้งๆที่ความจริงมันเหาะได้….และมันก็น่าจะเหาะไปช่วยมนุษย์ต่างดาวตั้งแต่ต้นเรื่อง
– Mac & Me
(ขอขอบคุณ Google ที่ทำให้รู้ว่าหนังเรื่องนี้ก็มาฉายในไทยด้วย…อาเมน)
หนังยอดแย่ตลอดกาลในตำนานอีกเรื่องที่ลอกอีทีมาทั้งดุ้น ผสมกับการโฆษณาแฝงแบบไม่แนบเนียน(ย้ำอีกทีว่ามันไม่เนียนจริงๆ)ของร้าน McDonalds และบริษัทอื่นๆ เริ่มกันที่ชื่อของมนุษย์ต่างดาวอย่าง Mac ที่ถึงแม้ในหนังจะบอกว่าย่อมาจาก Mysterious Alien Creature แต่เอาเข้าจริงแล้วมันมาจาก Big Mac Burger และไอ้ Mac นี่ก็น่ารักมาก…กินเป็นแต่ Coke กับ Skittles (ช็อโกแล็ตเม็ด คล้าย m&m’s) นอกจากนี้หนังยังมีฉากไฮไลท์อยู่ที่การเต้นเบรกแดนซ์ในร้านแมคโดนัลด์ถึง 5 นาที รวมถึงการปรากฏตัวของ Ronald McDonald (ไอ้มาสคอตหัวแดงๆที่ชอบยืนหน้าร้านน่ะครับ)โดยไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง เลย… เอากับพี่แกสิ! (จริงๆคือมันก็แค่ฉากที่พระเอกพาเจ้า mac หนีเจ้าหน้าที่มาในร้าน… แต่โฆษณาแฝงได้เวอร์มากครับ)
ผมว่าเราสรุปหนังเรื่องนี้สั้นๆได้จากหน้าตามนุษย์ต่างดาว…เอางี้ดีกว่า ผมว่ามันคือตัวเวตาลอ่ะ! มันไม่ใช่เลย!
—————————
แม้สิ่งที่ผมเขียนเหล่านี้อาจไม่อยู่ในความทรงจำของคนทุกคนที่เคยดูอีที แต่ใครล่ะจะลืมครั้งแรกที่เราได้เห็นเด็กขี่จักรยานที่ลอยได้ ใครจะลืมครั้งแรกที่ได้เห็นฉากแตะนิ้วสุดคลาสสิคของมนุษย์ต่างดาวกับเด็กน้อย
….และครั้งแรกที่คุณร้องไห้ขณะดูหนังเรื่องนี้
————————–
คลิปประกอบบทความ
-โฆษณาหนังอีที ฉบับประเทศไทย
http://www.youtube.com/watch?v=vvljmuRD9t4&feature=plcp
-ตัวอย่างเกมอีที
http://www.youtube.com/watch?v=hxmgr2fFAuI
-รายการ Mystery Science Theater 3000 ตอน Pod People
http://www.youtube.com/watch?v=sCl2ZNkfnS8
-หนัง Nukie
http://www.youtube.com/watch?v=wab1Y713tN0&feature=relmfu
-ตัวอย่างหนัง Mac And Me (ใครดูไม่ออกว่าโฆษณาแฝงยังไงก็ให้มันรู้ไป!)
http://www.youtube.com/watch?v=vNjACYfQlbI
——————–
หมายเหตุ: พิมพ์ครั้งแรกในกรุ๊ป The 80’s Number Ones Project เมื่อ 19 มิ.ย. 2555